สัญญาร่วมลงทุนคืออะไร?
สัญญาร่วมลงทุน (Joint Venture Agreement) คือข้อตกลงที่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตั้งแต่ สองฝ่ายขึ้นไป ตกลงนำทรัพย์สิน ทักษะ หรือทุนทรัพย์มาลงขันเพื่อดำเนินกิจการหรือโครงการเฉพาะ โดยแบ่งผลกำไร–ขาดทุนตามสัดส่วนที่ตกลงกัน สัญญาประเภทนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) แต่ศาลไทยตีความตามหลัก “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” (มาตรา 1012 ขึ้นไป) ผสมกับหลักสัญญาทั่วไป จึงจำเป็นต้องเขียนรายละเอียดให้รัดกุมเพื่อลดข้อพิพาทภายหลัง
ดาวน์โหลดสัญญาร่วมลงทุน (ฟรี)
เราได้จัดเตรียม เทมเพลตสัญญาร่วมลงทุน ที่ครอบคลุมหัวข้อหลักข้างต้น แก้ไขได้ทันที
ทำไมต้องมี “สัญญาร่วมลงทุน” เป็นลายลักษณ์อักษร?
- กำหนดสิทธิ–หน้าที่อย่างโปร่งใส
ระบุเงินลงทุน ทรัพย์สิน ชื่อทางการค้า ทรัพย์สินทางปัญญา หรือแรงงานที่แต่ละฝ่ายมอบให้ชัดเจน - ลดความเสี่ยงการตีความต่าง
เมื่อกิจการเริ่มทำกำไรหรือเกิดภาระหนี้ สัญญาจะเป็นเกราะคุ้มครองไม่ให้ฝ่ายหนึ่งอ้างสิทธิ์เกินส่วน - สร้างหลักฐานให้สถาบันการเงิน–นักลงทุน
ธนาคารมักขอดูสัญญาร่วมลงทุนก่อนพิจารณาสินเชื่อหรือร่วมทุนต่อ - กำหนดกลไกยุติข้อพิพาท
เช่น ใช้อนุญาโตตุลาการหรือศาลที่ตกลงไว้ ลดต้นทุนข้อพิพาทยืดเยื้อ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสัญญาร่วมลงทุน (FAQ)
Q : จำเป็นต้องจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ไหม?
A : ไม่จำเป็นเสมอไป หากเป็น “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” ที่ไม่ได้จดทะเบียนก็ใช้สัญญาร่วมลงทุนได้ แต่การจัดตั้งบริษัทใหม่จะช่วยจำกัดความรับผิดและเพิ่มความน่าเชื่อถือ
Q : ถ้าคู่สัญญาเป็นชาวต่างชาติ ต้องขอ BOI หรือ FBA ไหม?
A : ขึ้นกับสัดส่วนหุ้นและประเภทธุรกิจ หากเข้าข่ายบัญชี 3 ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ต้องขอใบอนุญาตก่อน
Q : เลือกกฎหมายต่างประเทศบังคับใช้ได้หรือไม่?
A : ได้ถ้าไม่ขัดต่อกฎหมายไทยและคู่สัญญายินยอม แต่การบังคับคดีในไทยต้องผ่านกระบวนการรับรองคำพิพากษาต่างประเทศ
สรุป
สัญญาร่วมลงทุนคือ “แผนที่” ที่กำหนดทิศทางและกติกาของการทำธุรกิจร่วมกัน ยิ่งร่างละเอียดเท่าไร ยิ่งป้องกันปัญหาและลดต้นทุนข้อพิพาทภายหลังได้มากเท่านั้น ดาวน์โหลดเทมเพลตฟรีจาก DD Law Firms แล้วปรับให้เหมาะกับโครงการของคุณ หรือหากต้องการ การปรึกษาเชิงลึก ทีมทนายของเรายินดีให้บริการ ตั้งแต่การตรวจ Due Diligence ไปจนถึงการเจรจาร่างสัญญาอย่างครบวงจร